เรื่องฮิต » เปรียบเทียบแสนยานุภาพทางทหารของอิสราเอลและอิหร่าน ในปี2025

เปรียบเทียบแสนยานุภาพทางทหารของอิสราเอลและอิหร่าน ในปี2025

15 มิถุนายน 2025
223   0

การเปรียบเทียบแสนยานุภาพทางทหารของอิสราเอลและอิหร่านเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีจุดแข็งและยุทธศาสตร์ที่แตกต่างกัน ..

หมวดหมู่อิสราเอลอิหร่าน
กำลังพล– ทหารประจำการ: 169,500 นาย – ทหารสำรอง: 465,000 นาย– ทหารประจำการ: 610,000 นาย – ทหารสำรอง: 350,000 นาย – กองกำลังกึ่งทหาร: 220,000 นาย
งบประมาณกลาโหม– 27.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เน้นเทคโนโลยีขั้นสูง)– 10.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เน้นจำนวนและการผลิตในประเทศ)
กองทัพอากาศ– เครื่องบินรบ: 339 ลำ (F-16: 196 ลำ, F-15: 83 ลำ, F-35: 30 ลำ) – เฮลิคอปเตอร์รบ: 43 ลำ (อาปาเช) – โดรน: ผู้นำด้านการผลิตและส่งออกโดรน– เครื่องบินรบ: 551 ลำ (รวม MiG-29, F-14 Tomcat) – เครื่องบินโจมตี: 23 ลำ – เฮลิคอปเตอร์จู่โจม: 13 ลำ – โดรน: มีการพัฒนาโดรน เช่น Shahed-136
กองทัพบก– รถถัง: 1,370 คัน – รถหุ้มเกราะ: 43,407 คัน – ปืนใหญ่เคลื่อนที่: 650 คัน – ฐานยิงจรวด: 150 ฐาน– รถถัง: จำนวนมากกว่า (ประมาณ 2,000 คัน แต่ส่วนใหญ่เป็นรุ่นเก่า เช่น T-72) – รถหุ้มเกราะ: จำนวนมาก – ฐานยิงจรวด: เน้นขีปนาวุธพิสัยไกล
กองทัพเรือ– เรือดำน้ำ: 5 ลำ – เรือลาดตระเวน/เรือประจัญบาน: 49 ลำ– เรือดำน้ำ: 19 ลำ (ส่วนใหญ่เป็นเรือขนาดเล็ก) – เรือรบ: เน้นเรือเร็วและขนาดเล็ก
ระบบป้องกันขีปนาวุธ– Iron Dome: ระบบป้องกันขีปนาวุธระยะสั้นที่มีประสิทธิภาพสูง – Arrow: ระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกล– ระบบป้องกันภัยทางอากาศ: Bavar-373 (พัฒนาในประเทศ, คล้าย S-300 ของรัสเซีย)
ขีปนาวุธ– ขีปนาวุธนำวิถี: ความแม่นยำสูง เช่น Iron Sting (ปืนครกนำวิถี 120 มม., พิสัย 1-12 กม.) – ขีปนาวุธพิสัยไกล: Jericho (คาดว่าพิสัย 1,500-4,800 กม.)– ขีปนาวุธทิ้งตัว: มากกว่า 150 ลูกในปฏิบัติการ True Promise 3 – ขีปนาวุธพิสัยไกล: เช่น Sejjil, Khorramshahr (พิสัย 2,000-3,000 กม.)
เทคโนโลยีและนวัตกรรม– ผู้นำด้านเทคโนโลยีทหาร เช่น AI ในการรวบรวมข่าวกรอง, โดรน, และระบบป้องกันขีปนาวุธ – ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ– พัฒนาอาวุธในประเทศ เช่น โดรน Shahed, ขีปนาวุธ – เน้นจำนวนและการพึ่งพาตนเอง
อาวุธนิวเคลียร์– ไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่ามี (ประมาณ 80-200 หัวรบนิวเคลียร์)– ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ (IAEA, 2025) แต่ยืนยันว่าเป็นการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ

หมายเหตุและการวิเคราะห์..

  1. อิสราเอล:
    • จุดแข็ง: เทคโนโลยีทหารที่ล้ำสมัย เช่น ระบบ Iron Dome, เครื่องบินรบ F-35, และโดรนที่พัฒนาเอง อิสราเอลลงทุนในนวัตกรรมและได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและงบประมาณจากสหรัฐฯ ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในสงครามสมัยใหม่
    • จุดอ่อน: ประชากรและกำลังพลน้อยกว่าอิหร่านมาก ต้องพึ่งพาคุณภาพมากกว่าปริมาณ
    • ยุทธศาสตร์: เน้นการป้องกันและการโจมตีที่แม่นยำ ใช้ AI และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  2. อิหร่าน:
    • จุดแข็ง: มีกำลังพลจำนวนมากและขีปนาวุธพิสัยไกลที่สามารถโจมตีเป้าหมายในระยะไกลได้ อิหร่านยังมีเครือข่ายพันธมิตร เช่น ฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มติดอาวุธในภูมิภาค ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถในการทำสงครามตัวแทน
    • จุดอ่อน: เทคโนโลยีล้าหลังเมื่อเทียบกับอิสราเอล โดยเฉพาะในกองทัพอากาศ (เครื่องบินรบส่วนใหญ่เป็นรุ่นเก่า) และพึ่งพาการผลิตในประเทศที่มีข้อจำกัดด้านคุณภาพ
    • ยุทธศาสตร์: เน้นการโจมตีด้วยขีปนาวุธจำนวนมากและสงครามตัวแทนเพื่อชดเชยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
  3. บริบทความขัดแย้ง:
    • อิสราเอลมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง เช่น Iron Dome ซึ่งสามารถสกัดขีปนาวุธจากอิหร่านได้ในระดับหนึ่ง (เช่น ในการโจมตี True Promise 3)
    • อิหร่านมีข้อได้เปรียบด้านจำนวนและความสามารถในการโจมตีระยะไกล แต่ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่อเผชิญกับระบบป้องกันของอิสราเอล
    • ความกังวลเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านเพิ่มความตึงเครียด โดยอิสราเอลมองว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อการดำรงอยู่ของชาติ

ข้อสรุป

  • อิสราเอล มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีและความแม่นยำ โดยเฉพาะในระบบป้องกันภัยทางอากาศและกองทัพอากาศที่ทันสมัย
  • อิหร่าน มีข้อได้เปรียบด้านจำนวนกำลังพลและขีปนาวุธพิสัยไกล รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรในภูมิภาค
  • การเปรียบเทียบโดยตรงขึ้นอยู่กับบริบทของการสู้รบ หากเป็นสงครามสมมาตร (conventional warfare) อิสราเอลมีโอกาสได้เปรียบจากเทคโนโลยี แต่ในสงครามอสมมาตร (asymmetric warfare) อิหร่านอาจใช้จำนวนและพันธมิตรเพื่อสร้างความท้าทาย

หมายเหตุ: ข้อมูลบางส่วนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ล่าสุด และบางข้อมูล (เช่น อาวุธนิวเคลียร์) ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทั้งสองฝ่าย.