ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง12เท่า ของอิหร่านที่กำลังบอมบ์อิสราเอลชื่อ “ชะฮีด​ กอเซ็ม​ สุไลมานี” มีรายละเอียดดังนี้..

ข้อมูล​ขีปนาวุธ​

🇮🇷

– ระยะยิง: 1400 ถึง 1800 กิโลเมตร

– น้ำหนักรวม: 7 ตัน

– น้ำหนักหัวรบ: 500 กิโลกรัม

– ความยาวตัวจรวด: 11 เมตร

– เส้นผ่านศูนย์กลางตัวจรวด: ประมาณ 85 ถึง 95 เซนติเมตร

– ความเร็วสูงสุด: 12 มัค (ในขณะเคลื่อนที่) และ 5 ถึง 6 มัค (เมื่อชนเป้าหมาย)

– ความแม่นยำ: ผิดพลาดต่ำกว่า 10 เมตร

– ประเภทเชื้อเพลิง: แข็ง

– จำนวนแผ่นปีก (บัลลังก์): 8 ชิ้น

– คุณสมบัติเด่น: แม่นยำ, ความสามารถในการผ่านระบบป้องกันขีปนาวุธ, หัวรบแยกได้พร้อมแผ่นปีกควบคุม, การปล่อยในมุมเอียง และเคลื่อนที่ได้

จรวดนี้เป็นรุ่นใหม่ของกลุ่มจรวด Fateh-110 ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2020 (ปี 1399 ของอิหร่าน)

@ain.shams.13 ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของอิหร่านที่ความเร็วสูงมาก โจมตีเมืองไฮฟา #อิสราเอล🇮🇱ไทย🇹🇭 #อิสราเอล #อิสราเอล🇮🇱 ♬ เสียงต้นฉบับ – Ain Shams 13

เปรียบเทียบแสนยานุภาพทางทหารของอิสราเอลและอิหร่าน ในปี2025

การเปรียบเทียบแสนยานุภาพทางทหารของอิสราเอลและอิหร่านเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีจุดแข็งและยุทธศาสตร์ที่แตกต่างกัน ..

หมวดหมู่อิสราเอลอิหร่าน
กำลังพล– ทหารประจำการ: 169,500 นาย – ทหารสำรอง: 465,000 นาย– ทหารประจำการ: 610,000 นาย – ทหารสำรอง: 350,000 นาย – กองกำลังกึ่งทหาร: 220,000 นาย
งบประมาณกลาโหม– 27.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เน้นเทคโนโลยีขั้นสูง)– 10.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เน้นจำนวนและการผลิตในประเทศ)
กองทัพอากาศ– เครื่องบินรบ: 339 ลำ (F-16: 196 ลำ, F-15: 83 ลำ, F-35: 30 ลำ) – เฮลิคอปเตอร์รบ: 43 ลำ (อาปาเช) – โดรน: ผู้นำด้านการผลิตและส่งออกโดรน– เครื่องบินรบ: 551 ลำ (รวม MiG-29, F-14 Tomcat) – เครื่องบินโจมตี: 23 ลำ – เฮลิคอปเตอร์จู่โจม: 13 ลำ – โดรน: มีการพัฒนาโดรน เช่น Shahed-136
กองทัพบก– รถถัง: 1,370 คัน – รถหุ้มเกราะ: 43,407 คัน – ปืนใหญ่เคลื่อนที่: 650 คัน – ฐานยิงจรวด: 150 ฐาน– รถถัง: จำนวนมากกว่า (ประมาณ 2,000 คัน แต่ส่วนใหญ่เป็นรุ่นเก่า เช่น T-72) – รถหุ้มเกราะ: จำนวนมาก – ฐานยิงจรวด: เน้นขีปนาวุธพิสัยไกล
กองทัพเรือ– เรือดำน้ำ: 5 ลำ – เรือลาดตระเวน/เรือประจัญบาน: 49 ลำ– เรือดำน้ำ: 19 ลำ (ส่วนใหญ่เป็นเรือขนาดเล็ก) – เรือรบ: เน้นเรือเร็วและขนาดเล็ก
ระบบป้องกันขีปนาวุธ– Iron Dome: ระบบป้องกันขีปนาวุธระยะสั้นที่มีประสิทธิภาพสูง – Arrow: ระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกล– ระบบป้องกันภัยทางอากาศ: Bavar-373 (พัฒนาในประเทศ, คล้าย S-300 ของรัสเซีย)
ขีปนาวุธ– ขีปนาวุธนำวิถี: ความแม่นยำสูง เช่น Iron Sting (ปืนครกนำวิถี 120 มม., พิสัย 1-12 กม.) – ขีปนาวุธพิสัยไกล: Jericho (คาดว่าพิสัย 1,500-4,800 กม.)– ขีปนาวุธทิ้งตัว: มากกว่า 150 ลูกในปฏิบัติการ True Promise 3 – ขีปนาวุธพิสัยไกล: เช่น Sejjil, Khorramshahr (พิสัย 2,000-3,000 กม.)
เทคโนโลยีและนวัตกรรม– ผู้นำด้านเทคโนโลยีทหาร เช่น AI ในการรวบรวมข่าวกรอง, โดรน, และระบบป้องกันขีปนาวุธ – ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ– พัฒนาอาวุธในประเทศ เช่น โดรน Shahed, ขีปนาวุธ – เน้นจำนวนและการพึ่งพาตนเอง
อาวุธนิวเคลียร์– ไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่ามี (ประมาณ 80-200 หัวรบนิวเคลียร์)– ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ (IAEA, 2025) แต่ยืนยันว่าเป็นการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ

หมายเหตุและการวิเคราะห์..

  1. อิสราเอล:
    • จุดแข็ง: เทคโนโลยีทหารที่ล้ำสมัย เช่น ระบบ Iron Dome, เครื่องบินรบ F-35, และโดรนที่พัฒนาเอง อิสราเอลลงทุนในนวัตกรรมและได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและงบประมาณจากสหรัฐฯ ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในสงครามสมัยใหม่
    • จุดอ่อน: ประชากรและกำลังพลน้อยกว่าอิหร่านมาก ต้องพึ่งพาคุณภาพมากกว่าปริมาณ
    • ยุทธศาสตร์: เน้นการป้องกันและการโจมตีที่แม่นยำ ใช้ AI และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  2. อิหร่าน:
    • จุดแข็ง: มีกำลังพลจำนวนมากและขีปนาวุธพิสัยไกลที่สามารถโจมตีเป้าหมายในระยะไกลได้ อิหร่านยังมีเครือข่ายพันธมิตร เช่น ฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มติดอาวุธในภูมิภาค ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถในการทำสงครามตัวแทน
    • จุดอ่อน: เทคโนโลยีล้าหลังเมื่อเทียบกับอิสราเอล โดยเฉพาะในกองทัพอากาศ (เครื่องบินรบส่วนใหญ่เป็นรุ่นเก่า) และพึ่งพาการผลิตในประเทศที่มีข้อจำกัดด้านคุณภาพ
    • ยุทธศาสตร์: เน้นการโจมตีด้วยขีปนาวุธจำนวนมากและสงครามตัวแทนเพื่อชดเชยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
  3. บริบทความขัดแย้ง:
    • อิสราเอลมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง เช่น Iron Dome ซึ่งสามารถสกัดขีปนาวุธจากอิหร่านได้ในระดับหนึ่ง (เช่น ในการโจมตี True Promise 3)
    • อิหร่านมีข้อได้เปรียบด้านจำนวนและความสามารถในการโจมตีระยะไกล แต่ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่อเผชิญกับระบบป้องกันของอิสราเอล
    • ความกังวลเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านเพิ่มความตึงเครียด โดยอิสราเอลมองว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อการดำรงอยู่ของชาติ

ข้อสรุป

  • อิสราเอล มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีและความแม่นยำ โดยเฉพาะในระบบป้องกันภัยทางอากาศและกองทัพอากาศที่ทันสมัย
  • อิหร่าน มีข้อได้เปรียบด้านจำนวนกำลังพลและขีปนาวุธพิสัยไกล รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรในภูมิภาค
  • การเปรียบเทียบโดยตรงขึ้นอยู่กับบริบทของการสู้รบ หากเป็นสงครามสมมาตร (conventional warfare) อิสราเอลมีโอกาสได้เปรียบจากเทคโนโลยี แต่ในสงครามอสมมาตร (asymmetric warfare) อิหร่านอาจใช้จำนวนและพันธมิตรเพื่อสร้างความท้าทาย

หมายเหตุ: ข้อมูลบางส่วนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ล่าสุด และบางข้อมูล (เช่น อาวุธนิวเคลียร์) ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทั้งสองฝ่าย.

อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านแล้ว ..หุ้นดิ่งเหว น้ำมันพุ่ง..หวั่นนิวเคลียร์

สถานการณ์ตะวันออกกลางระอุอีกครั้ง ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาสื่อสหรัฐฯ ระบุว่า อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน และอิหร่านได้ยิงสกัดการโจมตีพร้อมสั่งปิดน่านฟ้า เปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศในหลายเมือง ล่าสุดกองทัพอิสราเอลเปิดสัญญาณเตือนภัยทางตอนเหนือประเทศร่วมด้วย..

วันนี้ (19 เม.ย.2567) สำนักข่าวท้องถิ่นอิหร่าน รายงานว่า อิหร่านยิงสกัดการโจมตีทางอากาศในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยยิงสกัดโดรนตกหลายลำ หลังจากมีเสียงระเบิดดังขึ้น ใกล้กับเมืองอิสฟาฮานทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศหลักของกองทัพอิหร่าน ไปจนถึงสถานที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ล่าสุดมีรายงานว่า โครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับนิวเคลียร์ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ..

ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 คน เปิดเผยว่า อิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิหร่าน หลังจากก่อนหน้านี้มีข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าอิสราเอลแจ้งแผนการโจมตีโต้กลับอิหร่านแล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น (18 เม.ย.2567) แต่สหรัฐฯ ไม่เห็นชอบกับท่าทีดังกล่าว

ขณะที่สื่อทางการอิหร่าน รายงานว่า พบโดรน 3 ลำเหนือน่านฟ้าเมืองอิสฟาฮาน เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ตามเวลาท้องถิ่น

เว็บไซต์ติดตามการบิน Flightradar24 ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในอิหร่าน แสดงให้เห็นเที่ยวบินที่เปลี่ยนเส้นทางออกจากน่านฟ้าเหนืออิหร่าน ขณะที่สื่อทางการอิหร่าน รายงานว่า ได้สั่งระงับการบินเหนือน่านฟ้าเมืองอิสฟาฮาน ชีราซ และกรุงเตหะรานแล้ว

นอกจากนี้ อิหร่านยังเปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศในหลายเมือง ซึ่งอิสราเอลยังไม่ออกมาให้ข้อมูลใดๆ ในประเด็นการโจมตีโต้กลับอิหร่าน


อิหร่านขู่อิสราเอลเตรียมเอาคืนอย่างสาหัส
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นเพียงไม่นาน หลัง รมว.ต่างประเทศของอิหร่าน เตือนอิสราเอลในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า อิสราเอลจะต้องยุติการใช้ปฏิบัติการทางทหารที่มีความเสี่ยงต่อผลประโยชน์ของอิหร่าน และก่อนหน้านี้ อิบราฮิม ราอีซี ปธน.อิหร่าน เตือนว่าหากอิสราเอลตอบโต้การโจมตีของอิหร่านเพียงเล็กน้อย จะต้องเผชิญการโต้ตอบกลับอย่างเจ็บปวดและสาหัส

ความรุนแรงครั้งล่าสุดสร้างความกังวลให้นานาชาติที่พยายามเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางรุนแรงไปมากกว่านี้

แต่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกฯ อิสราเอล ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า อิสราเอลจะตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องตัวเอง.

cr:https://www.thaipbs.or.th/news/content/339175

ควันหลงจากวันที่13นี้ อิหร่านโจมตี /อิสราเอลเสียค่าจรวดป้องกันประมาณ4หมื่นล้านบาท

อิหร่าน เผยค่าใช้จ่าย #ขีปนาวุธ ยิงใส่อิสราเอลโดยประมาณจากปฏิบัติการเมื่อคืนนี้:..
ขีปนาวุธ 110 ลูก: 30-50 ล้านดอลลาร์
ขีปนาวุธร่อน 45 ลูก: 4-7 ล้านดอลลาร์
ชาเฮด-136: 4-5 ล้านดอลลาร์
รวม: 62 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ2พันล้านบาท)

อิหร่านเริ่มโจมตีอิสราเอลแล้วด้วยโดรนและขีปนาวุธจำนวนมาก #war #iran #israel

อิหร่านเริ่มโจมตีอิสราเอลแล้วด้วยโดรนและขีปนาวุธจำนวนมาก #war #iran #israel

วันนี้ (14 เม.ย.2567) สำนักข่าว BBC รายงานว่าเมื่อเวลา 03.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เกิดสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านตอบโต้อิสราเอลด้วยการยิงโดรน และขีปนาวุธเกือบ 200 ลำใส่อิสราเอล ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากโจมตีครั้งแรก เพื่อตอบโต้สถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรีย ถูกทิ้งระเบิดโจมตีเมื่อวันที่ 1 เม.ย.จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน..

เหนือท้องฟ้าในเมืองเฮบรอน ดินแดนปาเลสไตน์ ระหว่างการโจมตีของอิหร่านต่ออิสราเอลที่ AFPTV ถ่ายได้แสดงให้เห็นการระเบิดที่ส่องสว่างบนท้องฟ้าในในอิสราเอล ท่ามกลางเสียงไซเรนดังขึ้น ขณะที่วัตถุนับสิบลูกถูกสกัดกั้นโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลถูกยิงตกนอกอาณาเขต

ขณะที่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่ากองทัพพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ทั้งนี้อิสราเอลสั่งปิดน่านฟ้า เพื่อรับมือกับการโจมตีของอิหร่านครั้งนี้ รวมทั้งประเทศจอร์แดน เลบานอน และอิรัก ได้ประกาศปิดน่านฟ้า เช่นเดียวกัน

ความเคลื่อนไหวของอิหร่านในการพุ่งเป้าโจมตีดินแดนของอิสราเอล ถือเป็นการเปิดปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรก อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าอิหร่าน จะไม่ทำการโจมตีเพิ่มเติม แต่เป็นการเตือนเรื่องการตอบโต้ของอิสราเอลหรือการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ที่มีการยิงโดรนใส่สถานกงสุล เนื่องจากการโจมตีสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลของประเทศใดก็ตามไม่ต่างจากการพุ่งเป้าโจมตีแผ่นดินของประเทศนั้นโดยตรง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ประธานธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐ คาดว่าอิหร่านจะโจมตีอิสราเอลไม่ช้าก็เร็ว พร้อมกับเตือนไม่ให้อิหร่านดำเนินการดังกล่าว พร้อมย้ำความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่จะปกป้องอิสราเอล โดยไบเดน จัดการประชุมเร่งด่วนกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของเขาเกี่ยวกับวิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง..

เศรษฐา สั่งเกาะติด-พร้อมอพยพคนไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีถึงประชาชน โดยได้สั่งการ และประกาศเตือนประชาชนคนไทย หลังเหตุความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศมีความเป็นห่วงพี่น้องคนไทยในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง จึงได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดทำประกาศแจ้งเตือนคนไทยให้เตรียมความพร้อม รวมถึงแนวปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินด้วยแล้ว โดยขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัว และติดตามการประกาศและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ของสถานทูตไทยในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด

ขอให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว หากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในกรณีฉุกเฉินพี่น้องคนไทยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่าง ๆ ทุกแห่ง..

สถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอล รายงานว่า เครื่องบินรบของสหรัฐฯ และอังกฤษมีส่วนร่วมในการยิงสกัดโดรนที่มุ่งหน้ามายังอิสราเอล ตกเหนือพื้นที่ชายแดนอิรัก-ซีเรียเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 3 คนกล่าวว่ากองทัพสหรัฐฯ ยิงเครื่องบินโดรนตกโดยไม่บอกว่ามีจำนวนกี่ลำ

พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า “นี่เป็นการยกระดับการโจมตีที่รุนแรงและอันตราย ความสามารถในการป้องกันและรุกของเราอยู่ในระดับพร้อมสูงสุดก่อนการโจมตีขนาดใหญ่จากอิหร่าน”

cr:https://www.google.com/E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B..
Donnie,BBC,Iran News

Iron Dome ของอิสราเอล ลงทุนนับหมื่นล้าน ใช้ทำอะไร ?

ในการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ “ฮามาส” ใส่พื้นที่ต่าง ๆ ของอิสราเอลที่ผ่านมา มักจะมาในลักษณะของการยิงปืนใหญ่และจรวดขีปนาวุธเข้ามาในหลักเป็นพัน ๆ ลูก ซึ่งหากมันตกใส่อิสราเอลทั้งหมด สิ่งที่จะเกิดคือความหายนะอย่างไม่ต้องสงสัย..

หนึ่งในยุทโธปกรณ์ที่สำคัญที่สุดของอิสราเอลในการป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้ขีปนาวุธจากฮามาสตกใส่บ้านเมืองก็คือ ระบบป้องกันขีปนาวุธที่มีชื่อว่า “ไอรอนโดม” (Iron Dome) หรือ “โดมเหล็ก”

ไอรอนโดมมีลักษณะเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศเคลื่อนที่ โดยใน 1 ระบบประกอบด้วย 10 กอง ซึ่งแต่ละกองสามารถบรรทุกเครื่องยิงขีปนาวุธได้ 3-4 เครื่อง..

เมื่อมีการโจมตี กองทัพอิสราเอลจะเคลื่อนตำแหน่งนำไอรอนโดมไปประจำการตามจุดต่าง ๆ ที่มีความได้เปรียบในเชิงกลยุทธ์ สร้างแนวกำแพงสำหรับป้องกันจรวด กระสุนปืนใหญ่ และโดรน ให้การป้องกันพื้นที่ได้ครอบคลุมถึง 155 ตารางกิโลเมตร

กองทัพอิสราเอล (IDF) เคยกล่าวว่า ไอรอนโดมนั้นมีประสิทธิภาพที่สูงมาก โดยระบบนี้มีอัตราความสำเร็จสูง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งอิสราเอลถูกกลุ่มญิฮาดอิสลามยิงจรวดใส่ ก็สามารถสกัดกั้นได้ถึง 95.6%

การพัฒนาไอรอนโดมเริ่มขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่กลุ่มฮามาสขึ้นปกครองพื้นที่ฉนวนกาซาพอดี หลังจากนั้นก็ดำเนินการทดสอบในปี 2008-2009 ก่อนที่ไอรอนโดมชุดแรกจะถูกนำมาใช้งานจริงในปี 2011 และจากนั้นระบบก็ได้รับการอัปเกรดหลายครั้งเรื่อยมา

ไอรอนโดมทำงานอย่างไร?

สำหรับการทำงานของไอรอนโดมนั้น มี 4 ขั้นตอนหลัก ๆ คือ ตรวจจับ ทำนาย ประเมิน และสกัดกั้น

ในขั้นตอนแรก เรดาร์ของระบบไอรอนโดมจะตรวจจับจรวดที่ยิงเข้ามาภายในระยะ 4-70 กิโลเมตรจากตัวเครื่องยิงสกัดกั้น และส่งข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางของจรวดไปยังศูนย์บัญชาการและควบคุม
ศูนย์ควบคุมจะคำนวณและทำนายตำแหน่ง ว่าวิถีจรวดเป็นอย่างไร หากยิงขีปนาวุธต่อต้าน จะบรรจบกันที่จุดไหน และคาดการณ์ว่า จรวดนั้นจะโจมตีพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่หรือไม่
จากนั้นระบบจะประเมินให้ความสนใจเฉพาะจรวดที่ก่อให้เกิดภัยคุกคามสูงสุดต่อพื้นที่เมืองและโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อต้องรับมือกับภัยคุกคามหลายจุดพร้อมกัน โดยจะไม่สนใจจรวดที่มีแนวโน้มจะโจมตีพื้นที่ที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่หรือในทะเล
สุดท้าย ระบบควบคุมจะเชื่อมต่อกับตัวสั่งการที่จะยิงขีปนาวุธเพื่อทำลายจรวด หากประเมินแล้วว่ามีความสมเหตุสมผลที่จะต้องสกัดกั้น หากจรวดก่อให้เกิดภัยคุกคาม ไอรอนโดมจะยิงขีปนาวุธจากพื้นดินเพื่อทำลายจรวดนั้นขณะอยู่กลางอากาศ

อิสราเอลมีกองไอรอนโดมอยู่ 10 กองทั่วอิสราเอล แต่ละกองมีเครื่องยิงขีปนาวุธ 3-4 เครื่อง สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการติดตั้ง และเครื่องสกัดกั้นขีปนาวุธเองก็มีความคล่องตัวสูง

ทั้งนี้ ไอรอนโดมจะต่างจากระบบป้องกันภัยทางอากาศอื่น ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อหยุดขีปนาวุธ เพราะจะกำหนดเป้าหมายไปที่จรวดไม่นำวิถีในระดับความสูงต่ำ ซึ่งเป็นประเภทที่มักใช้โดยกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา..

△ค่าใช้จ่ายในการใช้งานไอรอนโดมสูงมาก เพราะขีปนาวุธที่ใช้สกัดกั้นแต่ละลูกมีราคาประมาณ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 ล้านบาท) ดังนั้นการสกัดกั้นจรวดที่เข้ามานับพันลูกจึงสร้างภาระทางการเงินให้กับอิราเอลพอสมควร.

ที่มา https://www.pohchae.com/2023/10/10/iron-dome-israel/

‘โดรนพิฆาตShahed’จากอิหร่าน – อาวุธเด็ดของรัสเซียในสงครามยูเครน

อาวุธที่สำคัญชนิดหนึ่งที่รัสเซียใช้ในสงครามรุกรานยูเครน คือโดรนชาเฮด (Shahed) ซึ่งผลิตในอิหร่าน และอาจกลายมาเป็นปัจจัยกำหนดความได้เปรียบในทางรบที่กำลังเกิดขึ้นอย่างดุเดือด..

เนื่องจากเป็นโดรนราคาถูก และติดเทคโนโลยีนำทางเพื่อความแม่นยำ อาวุธชนิดนี้ที่รัสเซียนำมาเปลี่ยนชื่อเป็น เกอราน-2 จึงสามารถนำมาใช้ในปริมาณมาก และได้ชื่อว่า “ขีปนาวุธร่อนของคนจน” ตามรายงานของเอพี

โดรนชาเฮด ที่ติดระเบิดเพื่อการทิ้งตัวทำลายเป้าหมาย มีความคล้ายการโจมตีแบบ “กามิกาเซ่” ของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สองหรือการพุ่งชนเป้าหมายเพื่อให้เกิดการระเบิดเสียหาย

ข้อมูลของสื่อออนไลน์ยูเครน Defense Express อ้างตัวเลขจากอิหร่านที่ระบุว่า ชาเฮด เป็นโดรนรูปสามเหลี่ยม มีความยาว 3.5 เมตร กว้าง 2.5 เมตร นำ้หนักประมาณ 200 กิโลกรัม

โดรนชนิดนี้ติดเครื่องยนต์ 50 แรงม้า และมีความเร็วสูงสุด 114 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เอพีรายงานว่าราคาของโดรนชาเฮดอยู่ที่ราว 2 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งราคาคิดเป็นเศษเสี้ยวของขีปนาวุธเต็มรูปเเบบ อย่างเช่น ขีปนาวุธร่อนรุ่น คาลิเบอร์ (Kalibr) ของกองทัพรัสเซียที่ราคา 1 ล้านดอลลาร์ต่อลูก

​ก่อนหน้านี้ รัสเซียใช้ขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ โจมตียูเครนอย่างกว้างขวางในช่วง 8 เดือนเเรกของสงคราม

โดรนชาเฮด เคยถูกใช้มาเเล้วในเยเมน และในการโจมตีเรือบรรทุกนำ้มันเมื่อปีที่เเล้ว ตามข้อมูลของ บีห์นาม เบน ตาเลบลู นักวิเคราะห์แห่งหน่วยงานคลังสมองในกรุงวอชิงตัน Foundation for Defense of Democracies

การนำ “โดรนพิฆาต” ชนิดนี้มาใช้ในยูเครนเวลานี้มีลักษณะน่าสนใจคือ แม้โดรนชาเฮดจะบินได้ไกล 1,000 กิโลเมตร แต่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโดรน แซเมล เบนเด็ตต์ แห่งองค์กรวิจัยด้านนโยบาย CNA กล่าวว่าระยะบินของโดรนดังกล่าวในสงครามยูเครนสั้นกว่านั้น

เขาอธิบายว่า สาเหตุที่โดรนบินในระยะที่ใกล้กว่าศักยภาพจริง เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการถูกใช้เคลื่อนก่อกวนระบบนำทางจีพีเอสนั่นเอง

รัสเซียใช้โดรนชนิดนี้หลายลำโหมโจมตียูเครน เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงถูกโต้กลับรุนเเรงต่อเครื่องบินรบล้ำสมัย และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของนักบินด้วย

นอกจากนั้นรัสเซียสามารถเก็บขีปนาวุธพิสัยไกลความเเม่นยำสูงที่มีอยู่อย่างจำกัด ไว้ใช้เมื่อถึงเวลาจำเป็น

สำหรับข้อจำกัดของโดรนชาเฮด มิโคลา เบไลสคอฟ นักวิจัยแห่งสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษาของยูเครนกล่าวว่าระเบิดที่นำขึ้นไปกับโดรนจะมีนำ้หนักเพียง 40 กิโลกรัม..

บไลสคอฟ กล่าวว่าปริมาณดังกล่าวถือว่าน้อยมากหากเทียบกับขีปนาวุธแบบปกติ ที่บินได้ไกลกว่ามากและสามารถติดระเบิดได้หนักถึง 480 กิโลกรัม

แต่โดรนชาเฮดยังคงสามารถสร้างความเสียหายที่รุนเเรงและส่งผลถึงขวัญกำลังในทหารยูเครนได้

ในการโจมตีเมื่อวันจันทร์ โดรนลำหนึ่งทิ้งตัวลงไปยังอาคารที่พักอาศัยและทำลายห้องพัก 3 ห้องและทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน

เบไลสคอฟ กล่าวว่าการโจมตีด้วยโดรนชาเฮด สร้างความหวั่นเกรงและความไม่มั่นใจในศักยภาพของระบบป้องกันทางอากาศของยูเครน

อย่างไรก็ตามเขาระบุว่า แม้รัสเซียจะใช้โดรนชนิดนี้จำนวนมาก แต่สิ่งที่รัสเซียไม่ได้กลับคืนมา คือดินแดนที่ยูเครนสามารถรุกคืบเข้าไปได้ในช่วงที่ผ่านมา.

‘โดรนพิฆาตShahed’จากอิหร่าน – อาวุธเด็ดของรัสเซียในสงครามยูเครน

โดรนพิฆาตShahed’จากอิหร่าน – อาวุธเด็ดของรัสเซียในสงครามยูเครน
#โดรนพิฆาต #Shahed #อิหร่าน #อาวุธเด็ดของรัสเซีย #สงครามยูเครน

cr:https://www.voathai.com/a/6795332.html , AP
https://en.defence-ua.com/news/ukrainians_raise_funds_to_buy_a_shahed_hunter-4536

รวมรอบรู้ไฮเทค คลิก

เรือดำน้ำรัสเซียติดหัวรบนิวเคลียร์ ‘โพไซดอน’ แสนยานุภาพสุดสะพรึงขนาดทำให้แผ่นดินไหวได้

อาวุธสุดร้าย ทำลายล้างโลก ของรัสเซีย “โดรนใต้น้ำติดหัวรบนิวเคลียร์” ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแต่ทดสอบขั้นสุดท้ายเท่านั้น เผยแสนยานุภาพสุดสะพรึงขนาดทำให้แผ่นดินไหวได้ แล่นได้ไกลถึงอเมริกา..

https://www.youtube.com/watch?v=ukYnAyd3yZw

เมื่อ 24 ส.ค.63 เว็บไซต์เดอะ ซัน รายงาน อาวุธแสนยานุภาพสุดร้ายกาจ โดรนใต้น้ำนิวเคลียร์ เรือดำน้ำติดหัวรบนิวเคลียร์ไร้คนขับ ของรัสเซีย ที่ถูกตั้งชื่อให้ว่า ‘โพไซดอน’ (Poseidon) ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยขณะนี้กำลังอยู่ในการทดสอบขั้นตอนสุดท้าย หลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้เผยโฉม ‘เขี้ยวเล็บ’ อาวุธสุดอันตราย ล่าสุดของกองทัพเรือรัสเซีย ข่มขวัญสหรัฐอเมริกา ชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก เนื่องในวันกองทัพเรือรัสเซีย เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา..

มีรายงานว่า ข้อมูลโดรนใต้น้ำติดหัวรบนิวเคลียร์สุดร้ายกาจ โพไซดอน ของรัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้หลุดออกมาถึงมือนักข่าวรัสเซีย ตั้งแต่ปลายปี 2558 ซึ่งขณะนั้น เรียกว่า ‘Ocean Multipurpose System Status-6’ ไม่ใช่ โพไซดอน ซึ่งตามรายงานของสื่อรัสเซีย เผยว่า โดรนใต้น้ำนิวเคลียร์โพไซดอนนี้ สามารถแล่นใต้น้ำด้วยความเร็ว 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถแล่นข้ามทวีป ในระยะทางได้ไกลถึง 10,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ขนาด 100 เมกะตัน

นาวาเอก คอนสแตนติด ซิฟคอฟ แห่งกองทัพเรือรัสเซีย กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า โดรนใต้น้ำนิวเคลียร์โพไซดอน อาจทำให้แผ่นเปลือกโลกแยก และสามารถทำลายอนุทวีปอเมริกาเหนือได้ทั้งหมดเลยทีเดียว เนื่องจากการขยับของแผ่นเปลือกโลกนั้นส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวที่สามารถทำลายเมืองได้ทั้งเมือง โดยนาวาเอกซิฟคอฟ ยังอ้างว่า ตอนนี้ สหรัฐฯ รู้สึกหวาดกลัว และถึงกับเคยเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียหยุดพัฒนาอาวุธทำลายล้างโลกนี้

cr ภาพ : Moscow Times
cr https://www.thairath.co.th/news/foreign/1917227
https://www.google.com/..ahUKEwiv_Kmg2-P6AhX..